มีเงิน 10,000 ลงทุนอะไรดี?

มีเงิน 10,000 ลงทุนอะไรดี? นี่คือคำถามยอดฮิตของเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่สามารถแบ่งเงิน 10,000 บาทจากเงินเดือนมาเก็บไว้ลงทุนได้ และหากเป็นการเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านหรือคอนโดเป็นของตนเอง

กว่าจะเก็บเงินเดือนละ 1 หมื่นให้ได้ 1 ล้านบาทก็ต้องใช้เวลานานกว่า 8 ปี ผู้ที่ต้องการเก็บเงินก้อนจึงต้องหาวิธีการลงทุนให้ได้เงินล้านได้เร็วขึ้น เมื่อถึงเวลาซื้อคอนโด จะได้เป็นหนี้ธนาคารให้น้อยที่สุดหรือซื้อสดได้ แต่มีเงิน 10,000 ลงทุนอะไรดี และจะลงทุนกับอะไรถึงดีที่สุดนั้น มาหาคำตอบกันที่นี่ได้เลย มีเงิน 10000 ทําอะไรได้บ้าง

1. เก็บในบัญชีเงินฝากประจำ

หากมีเงิน 10,000 บาทเป็นประจำทุกเดือน แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ขอแนะนำให้เริ่มด้วยการเก็บออมเงินในบัญชีฝากประจำแบบปลอดภาษี ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเก็บออม ซึ่งบัญชีประเภทนี้มีการบังคับให้ฝากเงินในจำนวนที่เท่ากันทุกเดือนตามระยะเวลาที่ธนาคารกำหนดไว้

และให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีเงินฝากแบบอื่น โดยการลงทุนในลักษณะนี้จะให้ผลตอบแทนประมาณ 3% ต่อปี และไม่มีทางขาดทุนเงินต้นอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้หากผู้ออมเงินผิดเงื่อนไขการฝาก เช่นขาดฝาก ฝากไม่ครบ หรือถอนก่อนกำหนด ผลตอบแทนก็อาจเหลือเพียงแค่ดอกเบี้ยเงินฝากปกติเท่านั้น

2. ลุ้นโชคกับสลากออมสิน

หากจะถามว่ามีเงิน 10,000 จะลงทุนอะไรดีที่ได้เสี่ยงโชคด้วย ขอแนะนำการซื้อสลากออมสินที่เสี่ยงโชคได้โดยไม่ต้องเสียเงินต้นเลยแม้แต่บาทเดียว แม้ผลตอบแทนจากเงินต้นจะต่ำเพียง 0.4% ต่อปี แต่ผู้ซื้อสลากก็มีโอกาสถูกรางวัลทุกงวด

ตลอดอายุของสลาก และยังสามารถซื้อหน่วยสลากเป็นจำนวนมาก เพื่อการันตีว่าอย่างน้อยผู้ซื้อสลากจะถูกรางวัลเลขท้ายที่ต่ำที่สุดทุกงวด โดยราคาต่อหน่วย อายุสลาก และมูลค่ารางวัลจะขึ้นอยู่กับประเภทสลากที่ซื้อ ซึ่งมีทั้งแบบ 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี หากผู้ออมเงินดวงดีสุด ๆ จนถูกรางวัลที่ 1 ก็จะได้เงินรางวัลสูงสุดถึง 10 ล้านบาทเลยทีเดียว

3. ซื้อตราสารหนี้

ถ้าจะถามว่ามีงบ 10,000 ลงทุนอะไรดีที่สุด ตราสารหนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างคงที่และมีความเสี่ยงน้อย ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้จากธนาคาร หรือหุ้นกู้จากภาคเอกชน ผู้ที่สนใจก็สามารถซื้อพันธบัตรที่องค์กรเหล่านี้เปิดขายเอง

หรือซื้อเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ เพื่อฝากให้ผู้เชี่ยวชาญนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ที่อาจได้รับผลตอบแทนมากกว่าการซื้อเองก็ได้ โดยการลงทุนแบบนี้จะได้ผลตอบแทนในลักษณะของการจ่ายดอกเบี้ยที่สม่ำเสมอ โดยให้ผลตอบแทนประมาณ 4% ต่อปี

และจะต่ำหรือสูงกว่านั้นก็ขึ้นอยู่กับการเสนอขายของผู้ออกพันธบัตร ทั้งนี้ตราสารหนี้อาจขาดทุนได้หากมีการซื้อขายก่อนครบกำหนดอายุของพันธบัตร

4. ซื้อกองทุนรวมหุ้น

ถ้าผู้ลงทุนรู้สึกว่าผลตอบแทน 4% ช้าเกินไปสำหรับการเก็บเงินซื้อคอนโด ขอแนะนำให้ลองลงทุนผ่านกองทุนรวม ซึ่งเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนสูง และเหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ค่อยมีความรู้ในตลาดทุน หรือไม่มีเวลาลงทุนในตลาดหุ้น

เพราะกองทุนรวมจะมีบริษัทจัดการกองทุนที่จะนำเงินไปลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ตามข้อมูลบ่งชี้ของกองทุนจนทำให้เกิดดอกออกผล โดยที่ผู้ลงทุนไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากต้องเลือกซื้อกองทุนให้เหมาะสม ซึ่งกองทุนรวมมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงถึง 6% หรือมากกว่านั้น แต่ถ้าเลือกผิดก็มีโอกาสขาดทุนเข้าเนื้อได้เช่นกัน

5. ลงทุนในตลาดหุ้น

แต่ถ้าถามว่าลงทุนอะไรดีจึงจะได้เงินเยอะที่สุด ก็ต้องเป็นการลงทุนในตลาดหุ้น แต่ก็เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในบรรดาการลงทุนทุกรูปแบบที่แนะนำด้วยเช่นกัน โดยผู้ลงทุนต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่องตลาดหุ้นมากพอสมควร

และมีเวลาพอในการติดตามตลาดซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ ในการลงทุนในตลาดหุ้นนั้น สามารถเลือกได้ระหว่างการถือหุ้นระยะยาวเพื่อรับผลตอบแทนเป็นเงินปันผล หรือการถือหุ้นระยะสั้นเพื่อขายเก็งกำไร โดยจะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปีหรือสูงกว่านั้น แต่ในทางกลับกัน หากเลือกลงทุนผิดก็อาจขาดทุนจนเงินต้นไม่เหลือเลยก็มี

ขอบคุณข้อมูลจาก ddproperty