เคยคิดบ้างไหม ว่าทำไมเราถึงต้องดูละคร หรือซีรี่ส์ต่าง ๆ ที่ทุกวันนี้มีผลิตออกมามากมาย จนกลายเป็นสิ่งที่ต้องดูกันเป็นประจำในทุก ๆ วัน เมื่อดูแล้วให้ประโยชน์อะไรกับคนดูที่มากกว่าอารมณ์และความรู้สึกร่วมไปกับละคร ทั้งยังมีรูปแบบของละครที่มีการพัฒนามาเรียกกันว่าซีรี่ส์ตามแบบฉบับที่ต่างชาติชอบเรียกกัน และยังมีเลือกให้ดูมากมายจากหลายชาติที่ถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการเลยก็ว่าได้ หรือแม้กระทั่งคนไทยเองก็ยังมีการทำซีรี่ส์ต่าง ๆ ที่มีให้ชมกันผ่านทางช่องเคเบิ้ลที่รุกคืบเข้ามาในจอโทรทัศน์ของบ้านกันอย่างหลากหลาย ทำเอาวงการละครของช่องเจ้าประจำโดนแบ่งค่าโฆษณาและส่วนแบ่งคนดูไปมากพอสมควรเช่นกัน แต่สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะทำให้เกิดคำถามว่าการดูละคร หรือซีรี่ส์เหล่านี้ทำให้ได้อะไร มีประโยชน์อย่างไรต่อคนดู
ดูซีรี่ย์ เมื่อก่อนการดูละครเป็นการสร้างความสนุกในบ้านตอนเย็น ๆ ที่ให้ความเพลิดเพลินกันหลังเลิกงานและหลังการรับประทานข้าวเย็น แต่ในบางคนก็อาจจะคิดได้ว่าสร้างความเครียดให้เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ เพราะละครนั้นน้ำเน่าเหลือเกิน หรือไม่ก็เครียดมากเกินไปกับการตบตี การใส่ร้ายหรือการด่าทอกันในเรื่อง ที่พยายามที่จะสร้างอารมณ์ ความรู้สึกร่วมไปกับการดูที่มากยิ่งขึ้น จนเกิดคำถามว่าคนดูละครแล้วได้อะไร ให้ประโยชน์กับคนที่ดูหรือไม่ ซึ่งถ้ามองกันแบบผิวเผินนั้นก็คงจะเป็นการให้ประโยชน์ในเรื่องของการตีแผ่เอาความจริงในสังคม สื่อสารออกมาให้เห็นภาพและทำให้คนดูได้เห็นว่ามีเรื่องราวแบบนี้ หรือคนในลักษณะตามตัวละคร เกิดขึ้นจริงในสังคมที่เป็นอยู่ แต่ก็อาจจะมีการเพิ่มเติมบทบาทเรื่องราวให้เข้มข้นและดูเกินจริง เพื่อเป็นการสร้างอรรถรสในการรับชมให้ดูน่าติดตามมากยิ่งขึ้น
การดูซีรี่ส์ก็ไม่ค่อยต่างอะไรจากการดูละครมากนัก มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันแต่จะเป็นเรื่องราวที่จบในตอนเสียส่วนใหญ่ จึงกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในผู้ที่ชื่นชอบการดูละคร และถือว่าเป็นกระแสที่กำลังมาแรงจนอาจจะกลายเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดของบรรดาช่องใหญ่ ๆ เอาได้ แต่ถ้าถามคำถามเดิมคือได้อะไรจากการดูซีรี่ส์เหล่านี้ ก็สามารถตอบได้เลยว่าในบางเรื่องก็ให้ประโยชน์ และให้คำถามที่ต้องกลับไปคิดหรือเปลี่ยนแปลงความคิดได้เลย อย่างเช่น ซีรี่ส์ของประเทศไทยที่มีชื่อสียงและได้รับความนิยมอย่างมากอยู่ช่วงหนึ่ง เพราะเป็นซีรี่ส์ที่ตีโจทย์เรื่องปัญหาของวัยเรียนในชั้นมัธยมได้ดี โดยที่เรื่องราวในซีรี่ส์นั้นจะเน้นที่เรื่องของการใช้ชีวิตของเด็กในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ โดยมีตัวละครที่มีบทบาทการแสดงที่ทำให้เห็นเด็กที่มีบุคลิกและปัญหาชีวิตที่แตกต่างกันออกไป เน้นในเรื่องของทั้งปัญหาชีวิตและปัญหาในวัยเรียนของเด็กมัธยมปลายในโลกที่ทันสมัย และโลกแห่งเทคโนโลยีที่เมื่อชีวิตในสังคมเปลี่ยนไป ซึ่งเนื้อเรื่องมีมาหลายภาคเพราะได้รับความนิยมนั่นเอง
Comments