ขายฝาก จำนำ จำนอง เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

หลายคนอาจจะยังสับสนเกี่ยวกับการขายฝาก จำนำ และจำนอง ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์สามารถนำไปขายฝาก จำนำ จำนอง ได้หรือไม่ ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราก็ได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการขายฝาก จำนำ และจำนอง ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรมาฝากกัน

การขายฝาก

การทำสัญญาขายฝากก็คือสัญญาซื้อขายโดยที่สิทธิ์แห่งความเป็นเจ้าของในทรัพย์สินนั้นจะตกไปยังผู้ซื้อ โดยผู้ซื้อได้มีการตกลงในขณะทำสัญญาว่าผู้ขายนั้นมีสิทธิ์ไถ่ทรัพย์สินคืนภายในระยะเวลาที่ ตกลงกันไว้ แต่ไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนด โดยในช่วงที่ทำการขายฝากคู่สัญญาก็จะมีการตกลงกันไม่ให้ผู้ซื้อฝากทำการจำหน่ายทรัพย์สินที่ขายฝากนั้นให้กับผู้อื่น สามารถทำการขายฝากกับทรัพย์สินได้ทุกชนิด จำนอง ที่ดิน

การจำนำ

การทำสัญญาจำนำเป็นการทำสัญญาโดยที่บุคคลหนึ่งก็คือผู้จำนำ ทำการส่งมอบทรัพย์สินให้แก่อีกบุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่าผู้รับจำนำเป็นผู้ครอบครอง เพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้ ซึ่งการจำนำโดยทั่วไปจะใช้กับทรัพย์สินที่สามารถเคลื่อนที่ได้ โดยที่ผู้จำนำจะต้องเป็นเจ้าของและถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น ๆ แต่ในบางครั้งก็จะมีการนำเอาโฉนดที่ดินมาจำนำกันด้วย ซึ่งก็จะคล้ายกับการจำนองที่ดินแต่จะไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์เกิดขึ้น เป็นเพียงแค่การนำเอาโฉนดที่ดินไปให้ผู้รับจำนำเก็บรักษาเอาไว้เพื่อเป็นหลักประกันในการกู้เงิน หากผู้จำนำผิดนัดชำระหนี้ผู้รับจำนำก็สามารถฟ้องร้องและบังคับยึดที่ดินได้

การจำนอง

การทำสัญญาจำนองก็เป็นหลักประกันหนี้อีกรูปแบบหนึ่ง โดยที่ผู้จำนองจะนำเอาอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ อันได้แก่ที่ดินหรือบ้านเรือน ไปไว้ให้กับอีกบุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่าผู้รับจำนอง โดยจะเป็นการจดทะเบียนทรัพย์สินที่จำนองต่อหน้าเจ้าพนักงานกรมที่ดินเพื่อเป็นหลักประกันในการชำระหนี้ของผู้จำนอง โดยที่ผู้จำนองไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินที่จำนองให้กับเจ้าหนี้ แต่ถ้าหากผู้จำนองหรือลูกหนี้ไม่ทำการชำระหนี้ตามกำหนด ผู้รับจำนองหรือเจ้าหนี้ก็มีอำนาจที่จะยึดทรัพย์สินที่เอามาจำนองออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ได้

ดังนั้นใครที่อยากหาเงินก้อนจากอสังหาริมทรัพย์อย่างเช่นที่ดินหรืออาคารบ้านเรือน การเลือกวิธีขายฝากหรือจำนองก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า โดยแนะนำให้เลือกขายฝากกับบริษัทหรือแหล่งการเงินที่เชื่อถือได้ มีรูปแบบการทำสัญญาที่ชัดเจนและอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม เพราะมีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือได้มากกว่า จะได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลังในกรณีที่นำเงินมาซื้อหรือไถ่ถอนทรัพย์สินคืน