กระเบื้องเกล็ดปลา หรือกระเบื้องหางมน เป็นวัสดุมุงหลังคาที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในสถาปัตยกรรมไทย มีลักษณะคล้ายเกล็ดปลาเรียงซ้อนกัน สร้างความสวยงามและร่มเย็นให้กับอาคาร ในปัจจุบัน กระเบื้องเกล็ดปลายังคงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในการมุงหลังคาสำหรับอาคารที่ต้องการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นไทย
กระเบื้องหลังคาโบสถ์ กระเบื้องเกล็ดปลาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันมักเป็นกระเบื้องเคลือบดินเผา ซึ่งนอกจากจะใช้มุงหลังคาเรือนไทยแล้ว ยังนิยมนำมาใช้กับหลังคาโบสถ์ หลังคาวัด และอาคารต่างๆ ที่ต้องการสื่อถึงความเป็นไทย ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัดของกระเบื้องชนิดนี้ ทำให้สามารถประยุกต์ใช้กับหลังคาได้หลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ การวางซ้อนทับกันอย่างแน่นหนาของกระเบื้องเกล็ดปลายังช่วยป้องกันปัญหาการรั่วซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความพิเศษของกระเบื้องเกล็ดปลาไม่เพียงแต่อยู่ที่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณสมบัติในการช่วยระบายความร้อนและสร้างความร่มเย็นให้กับตัวอาคาร การใช้กระเบื้องเกล็ดปลาจึงไม่เพียงแต่เป็นการอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมไทย แต่ยังเป็นการผสมผสานระหว่างความงามตามแบบฉบับดั้งเดิมกับประโยชน์ใช้สอยที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว
รายละเอียดเบื้องต้น กระเบื้องเกล็ดปลา
ใช้ระยะแป (ระแนง) 12 ซม. วัดที่ระยะขอกระเบื้องเกี่ยวระแนง
จำนวน 100 แผ่น/ตารางเมตร
น้ำหนักเฉลี่ย ประมาณ 0.65 กก/แผ่น
ความชันของหลังคาที่เหมาะสม ไม่น้อยกว่า 22 องศา หรือ เอียง(สโลป) เมตรละ 0.404 เมตร(40.4 ซม.)
กระเบื้องดินเผามุงหลังคาแบบกระเบื้องเกล็ดปลาตามประเพณีนิยม จะมุง 2 ชั้น ตัวสั้น+ตัวยาวบนระแนง(แป)เดียวกัน
กระเบื้องเกล็ดปลาเผาเคลือบสีดั้งเดิม แดง เหลือง เขียว น้ำตาลเม็ดมะขาม หรือไม่เคลือบสี แต่ละสี ราคาไม่เท่ากัน
ราคาเริ่มต้น(ไม่เผาเคลือบ) ราคาแผ่นละ 1x บาท
Comments