5 ทำเลที่มีราคาประเมินที่ดินสูงสุดในกรุงเทพ ปี 66

หลังจากที่กรมธนารักษ์ประกาศใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ในรอบปี 2566-2569 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569 ซึ่งพื้นที่ในกรุงเทพฯ หลายแห่งนั้นก็มีราคาประเมินที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะทำเลใจกลางเมืองและตามแนวรถไฟฟ้าที่มีราคาประเมินที่ดินที่ค่อนข้างสูง ซึ่ง 5 ทำเลที่มีราคาประเมินที่ดินสูงสุดในกรุงเทพ ปี 66 ก็มีดังนี้

1. ถนนวิทยุ

ขายฝาก ที่ดิน เป็นทำเลที่มีการเพิ่มขึ้นของราคาประเมินที่ดินสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรอบปีบัญชี 2559 - 2562 โดยเฉพาะในช่วงพระรามที่ 4 ถึงถนนเพลินจิต และช่วงเพลินจิต - คลองแสนแสบ เนื่องจากเป็นย่านที่เศรษฐกิจกำลังกลับมาคึกคักอีกครั้ง จึงทำให้ราคาประเมินที่ดินนั้นพุ่งสูงขึ้นจนถึง 1 ล้านบาทต่อตารางวา ซึ่งเมื่อเทียบกับในรอบการประเมินราคาที่ดินครั้งก่อน ก็มีราคาเพิ่มขึ้นมาสูงถึง 100% กันเลยทีเดียว

2. ถนนเพลินจิต

ราคาประเมินที่ดินในรอบปี 2566-2569 อยู่ที่ 1,000,000 บาทต่อตารางวา (ช่วงราชดำริ - ทางพิเศษเฉลิมมหานคร) เป็นที่ดินซึ่งถือได้ว่าเป็นถนนสายธุรกิจที่เต็มไปด้วยร้านค้าและห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ที่มีความหรูหราและมีขนาดใหญ่ มีการเดินทางที่สะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า BTS จึงทำให้ที่ดินในย่านนี้มีราคาสูงเพิ่มขึ้นจากเดิม 9 แสนบาทต่อตารางวา เป็น 1 ล้านบาทต่อตารางวา

3. ถนนสีลม

ราคาประเมินที่ดินในรอบปี 2566-2569 ของถนนสีลมในช่วงจุดตัดถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ไปจนถึงจุดตัดถนนเจริญกรุง มีราคาประเมินอยู่ที่ 750,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นราคาประเมินเดิมก็คือ 700,000 บาทต่อตารางวา ในขณะที่ช่วงจากบริเวณจุดตัดถนนพระราม 4 ถึงจุดตัดถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ก็ยังคงเป็นราคาประเมินเดิมอยู่ โดยมีราคาสูงถึง 1,000,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งพื้นที่ของถนนสีลมก็เรียกได้ว่าเป็นถนนธุรกิจสายสำคัญของกรุงเทพฯ มีทัศนวิสัยที่เรียบร้อยสวยงาม เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ รวมไปถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เป็นย่านที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม และมีเส้นทางรถไฟฟ้า BTS ผ่าน

4. ถนนพระรามที่ 1

สำหรับราคาประเมินที่ดินในรอบปี 2566-2569 ของที่ดินในพื้นที่ถนนพระรามที่ 1 ก็มีช่วงราคาประเมินที่ดินที่ค่อนข้างหลากหลาย โดยบริเวณจุดตัดถนนบรรทัดทองไปจนถึงถนนกรุงเกษม มีราคาประเมินที่ดินคงที่ 400,000 บาทต่อตารางวา จุดตัดบริเวณถนนพญาไทไปจนถึงจุดตัดบริเวณถนนบรรทัดทอง มีราคาประเมินที่ดินคงที่อยู่ที่ 500,000 บาทต่อตารางวา ในขณะที่ช่วงจุดตัดบริเวณถนนราชดำริไปจนถึงบริเวณถนนพญาไท ราคาประเมินที่ดินเพิ่มขึ้นจากราคาเดิม 900,000 บาทต่อตารางวา กลายเป็น 1 ล้านบาทต่อตารางวา โดยเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มีทั้งห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงาน และสถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง

5. ถนนราชดำริ

ราคาประเมินที่ดินในรอบปี 2566-2569 ของที่ดินบริเวณถนนราชดำริในช่วงบริเวณจุดตัดถนนเพลินจิตไปจนถึงถนนพระรามที่ 4 ยังคงมีราคาประเมินที่ดินคงที่ก็คือ 750,000 ต่อตารางวา และในช่วงจากจุดตัดบริเวณถนนเพลินจิตไปจนถึงคลองแสนแสบ มีราคาประเมินที่ดินของที่ด้วยเช่นกัน โดยมีราคาประเมินอยู่ที่ 900,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งบริเวณถนนราชดำรินี้ก็จะเป็นพื้นที่ซึ่งต่อมาจากถนนสีลม เป็นย่านการค้าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยศูนย์การค้า ตลาด และมีเส้นทางรถไฟฟ้า BTS ผ่าน

โดยรวมแล้วราคาประเมินที่ดินใหม่ในรอบปี 2566-2569 ก็ได้มีการปรับขึ้นจากฐานเดิมในปี 2559-2562 เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8.93% และแน่นอนว่าทำเลทองก็ยังคงอยู่ในย่านธุรกิจและย่านการค้าที่สำคัญรวมไปถึงย่านที่มีรถไฟฟ้าตัดผ่านนั่นเอง