ตั้งชื่อบริษัท เป็นจุดเริ่มต้น และเป็นเรื่องสำคัญในการทำธุรกิจ หลาย ๆ ท่านที่ต้องการ ตั้งชื่อบริษัท อาจจะไม่ทราบว่าจะตั้งชื่อออกมาอย่างไรดี ถึงจะมีความหมายที่ดี เหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจ และช่วยส่งเสริมกิจการให้มียอดขายดีแบบเทน้ำเทท่าได้
โดยการตั้งชื่อบริษัทที่เหมาะสม จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณนั้นดูแตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่งทางธุรกิจ รวมไปถึงยังช่วยสร้างภาพพจน์ที่ดีได้อีกด้วย ซึ่งชื่อบริษัท จะมีผลโดยตรงกับการรับรู้ภาพลักษณ์ของธุรกิจต่อลูกค้า ความเป็นมืออาชีพในธุรกิจ หากเราได้ตั้งชื่อบริษัทที่สามารถสื่อได้ว่าเราทำธุรกิจอะไร จะช่วยดึงดูดลูกค้าที่สนใจสินค้าหรือบริการของเราให้เข้ามาซื้อสินค้าได้อย่างตรงจุด เพราะฉะนั้น หากเราเริ่มต้นกิจการโดยเลือกใช้ชื่อที่ดี จะมีชัยไปกว่าครึ่งเลยล่ะค่ะ
ตั้งชื่อบริษัทให้เป็นมงคล โดยชื่อที่เป็นมงคลนั้นมักจะตั้งชื่อให้ผ่านหลักเลขศาสตร์ อยู่ในกลุ่มเลขที่ดี โดย ชื่อบริษัทมงคล จะช่วยส่งเสริมดวงชาตากิจการให้เจริญก้าวหน้า ร่ำรวย ประสบความสำเร็จได้โดยง่าย ตัวอย่างเช่น
บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ พบว่าถอดค่าทางเลขศาสตร์ได้เลข 51 ซึ่งเป็นเลขที่ดีมาก อิทธิพลของเลขนี้ ส่งผลให้กิจการที่ทำอยู่มักมีผู้อุปถัมภ์ และการสนับสนุนเป็นอย่างดี มีหุ้นส่วนค่อนข้างดีมาก จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทั้งทางด้านครอบครัว และด้านสินทรัพย์ ฐานะร่ำรวย มีชื่อเสียงโด่งดัง ได้รับการนับถือจากวงสังคม มีผู้ใหญ่รักใคร่
จะเห็นได้ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับต้น ๆ ของประเทศก็ไม่ละเลยที่จะใช้ชื่อบริษัทมงคล เช่นเดียวกันค่ะ
2. ตั้งชื่อบริษัท ให้มีความหมายที่ดี
การตั้งชื่อบริษัทให้มีความหมายที่ดี หรือมีความหมายเชิงบวก จะสามารถแสดงจุดยืน และภาพลักษณ์ที่ดีต่อลูกค้า ทั้งยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และสามารถดึงดูดให้ผู้ประกอบการและลูกค้า เข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัทได้อีกด้วย ตัวอย่างชื่อบริษัทที่มีความหมายดี เช่น
รุ่งเจริญทรัพย์ รอยัล (RUNGCHAROENSAP ROYAL) เป็นการนำคำที่มีความหมายมงคลมาเรียงต่อกันให้เป็นชื่อบริษัท โดยคำว่า รุ่ง มาจากคำว่า รุ่งเรือง, เจริญ แปลว่า ก้าวหน้า เติบโต งอกงาม และทรัพย์ จากคำว่า ทรัพย์สิน ทำให้ชื่อนี้รวมกันแล้วเป็นชื่อที่มีความหมายดี นั่นก็คือ บริษัทที่เจริญเติบโตรุ่งเรืองและมากด้วยทรัพย์
BEST LIFE SECURITY โดยมีความหมายตรงตัวว่า ความปลอดภัยในชีวิตที่ดีที่สุด ในส่วนแนวคิดของบริษัทคือ “ให้เราดูแลความปลอดภัยของคุณ” ซึ่งนอกจากชื่อบริษัทจะมีความหมายที่ดีแล้ว ยังสามารถบ่งบอกถึงธุรกิจที่ทำได้เป็นอย่างดี
3. สะกดง่าย ออกเสียงไม่ยาก
ชื่อบริษัทที่ดีควรเป็นชื่อที่สะกดได้ง่าย และออกเสียงเรียกได้ไม่ยาก เพราะจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเข้าถึงได้ และง่ายต่อการจดจำ ทั้งยังสะดวกต่อการเขียนในเอกสารสำคัญ หลบเลี่ยงข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ตัวอย่างชื่อบริษัท เช่น
บริษัท TOP PERFECT (ท็อป เพอร์เฟค)
บริษัท GOODLY PLUS (กู๊ดลี่ พลัส)
Comentarios